การสร้างเขื่อนในประเทศ สปป. ลาว นับเป็นโครงการระดับรัฐบาล ที่ต้องการสร้างเพื่อเป็นแหล่ง "ผลิตกระแสไฟฟ้า" โดยจะจำหน่ายและส่งออกให้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายเป็น "หม้อไฟอาเซียน" หรือ "แบตเตอรี่แห่งอาเซียน" สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มีเป้าหมายที่จะสร้างเขื่อนทั้งสิ้น 100 โครงการ เพื่อใช้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า โดยในปัจจุบันมีแหล่งผลิตไฟฟ้าแล้ว 53 แห่ง กำลังติดตั้ง 7, 082 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1 แห่ง คือโรงไฟฟ้าหงสา ขณะที่ส่วนใหญ่เป็นเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำ ซึ่งภายในปี 2563 จะมีแหล่งผลิตไฟฟ้าอีก 47 แห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถึงเวลานั้นจะทำให้ สปป. ลาวมีแหล่งผลิตไฟฟ้าถึง 100 แห่ง หรือ 100 หม้อไฟ ในจำนวนนี้ 99% เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจำนวน 13, 862 เมกะวัตต์ สปป. ลาว ก็จะกลายเป็นประเทศที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียนได้โดยมีในสัดส่วน 85% ส่วนอีก 15% ของพลังงานไฟฟ้า จะถูกนำมาใช้ภายในประเทศ สำหรับแผนการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า สปป. ลาวกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งส่งออกไปยังประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยไทยเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไฟฟ้าจากลาว คิดเป็นปริมาณที่ไทยซื้อจากลาวประมาณปีละ 10, 000 เมกะวัตต์ และเวียดนามประมาณ 5, 000 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ลาวมีแผนจำหน่ายกระแสไฟฟ้าผ่านไทยและมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ประมาณ 100 เมกะวัตต์ต่อปีและไปยังเมียนมา 200 เมกะวัตต์ ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายในปี 2020 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยเป็นลูกค้ารายสำคัญที่ซื้อไฟฟ้าจาก สปป.
ลาว … น้ำงึม 1 เป็นเขื่อนไฟฟ้าที่สร้างกั้นแม่น้ำงึม ลำน้ำสาขาขนาดใหญ่สายหนึ่งของแม่น้ำโขง ที่ตั้งของเขื่อนอยู่ที่บ้านแสงสะหว่าง เมืองแก้วอุดม แขวงเวียงจันทน์ ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร เดือนธันวาคม 2505 รัฐบาลลาวเสนอผลศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้ากั้นแม่น้ำงึมเป็นครั้งแรก เพราะต้องการให้ลาวสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เองได้ สนองความต้องการของประชาชน พ. 2509 ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ธนาคารโลก และองค์การสหประชาชาติ ร่วมกันจัดตั้งกองทุนน้ำงึม 1 ขึ้น เพื่อสนับสนุนโครงการนี้ พ.
ลิงก์ข้ามไปยังรุ่นภาษาอื่นของบทความนี้ถูกย้ายไปด้านบนแล้วที่ทางขวาของชื่อหน้า ไปด้านบน