การเงิน 09 เม. ย. 2563 เวลา 9:00 น. 25. 6k จุดพลุข่าวร้ายมาให้เห็นแล้วจากการผิดนัดชำระหนี้หรือ "Default" หุ้นกู้ เคสของ ACAPถึง 2 รุ่นมูลค่า 1, 480 ล้านบาท เหตุจากไม่สามารถชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนด วงเงินกว่า 24 ล้านบาท ตามข่าวชี้แจงว่ากระแสโควิด-19 พ่นพิษ ลูกหนี้เงินกู้ยืม 2 ราย ไม่ได้รับพิจารณาเงินกู้จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง มาจากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ดูๆแล้วก็สงสัย ปนฉงนสนเท่ห์ ด้วยบริษัทจัดเครดิตเรทติ้งอย่าง ทริส ปรับอันดับหุ้นกู้ลดลงลงไปอยู่ D ซึ่งถือว่าเป็นระดับJunk Bondช่วงวันที่ 7 ก. พ. 2563 เพราะมี รายการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้เหมือนกันถึง 400 ล้านบาท ผ่านมาเดือนกว่า หุ้นกู้ที่ไล่ครบกำหนดมีปัญหาตามเหมือนเดิม ผิดกันแค่คราวนี้จะแก้ไขเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้มาเจรจาปัญหาหนี้ไม่ได้ทันที ด้วยติด พ. ร. ก. ฉุกเฉินยาวไปถึงสิ้นเดือนเม. จึงต่อลมหายใจไปได้อีกหน่อย ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารยึดคาถา "ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่รับสาย ไม่ตอบคำถามให้มากความ" ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ PPPM ซึ่งเป็นผู้ถือรายใหญ่อันดับ 2 เคยผิดนัดชำระหนี้มาก่อนด้วยหรือเปล่าถึง "ซ้ำรอย" ได้เหมือนเป๊ะขนาดนี้
ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภารกิจแรก ที่เร่งดำเนินการคือ การที่จะต้อง "ล้างหนี้" ด้วยการแยกหนี้ดีออกจากหนี้เสีย เพื่อให้ระบบการเงินเคลื่อนต่อไปได้ และด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ด้วยหลักการ "ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส" มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจจากระดับพื้นฐาน สู่โครงสร้างระบบเศรษฐกิจระดับสูง ในที่สุดก็สามารถชำระหนี้ ไอเอ็มเอฟ ได้ในปี พ. 2546 ก่อนครบกำหนดชำระถึง 2 ปี ทำให้ประเทศไทยพ้นจากภาวะใกล้ล้มละลาย นำศักดิ์ศรีกลับคืนสู่คนไทยและประเทศไทยจนสำเร็จ โดยวันประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยชำระหนี้งวดสุดท้ายให้ ไอเอ็มเอฟ ดังกล่าวนั้นเป็นการชำระก่อนครบกำหนดชำระถึง 2 ปี ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 31กรกฎาคม พ. 2546 โดย ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นได้แถลงต่อประชาชนคนไทย ชี้แจงรายละเอียดทุกขึ้นตอน พร้อมประกาศยืนยันว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจและภูมิใจในความเป็นคนไทย เพราะวันนี้เราไม่มีพันธะใดๆ พร้อมกับประกาศว่า ในก้าวต่อไป จะเป็นสิ่งที่จะต้องทำประเทศให้เข้มแข็ง ท่ามกลางกระแสตอบรับจากทุกฝ่ายอย่างล้นหลาม หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับเช้าตรู่วันที่ 1 สิงหาคม พ. 2546 พาดหัวข่าวเอาไว้ว่า "ทักษิณ ลั่น เป็นไท พ้นอกไอเอ็มเอฟ" บันทึกเนื้อหาบรรยากาศในวันนั้นเอาไว้อย่างละเอียด โดยระบุว่า "เวลา 20.
4 ขณะที่ 2545 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21. 7 และปี 2546 ขยายตัวถึงร้อยละ 28. 5 ภาคอุตสาหกรรมในปี 2545 ขยายตัวร้อยละ 55. 9 และปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 66. 6 เป็นการแสดงถึงความต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ส่วนการออก ปี 2544 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์ 11 ก. ย. 2544 ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้เศรษฐกิจหดตัวลง เหลือเพียงร้อยละ 1. 7 และปี 2545 ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็โตได้ ร้อยละ 5. 7 ส่วนปี 2546 เพียงแค่ครึ่งปีแรก การส่งออกของไทยก็โตได้ถึงร้อยละ 5. 9 ส่วนผล ประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี 2543 มีกำไร 4. 5 หมื่นล้านบาท ปี 2544 กำไร 1 แสนล้านบาท ปี 2545 กำไร 1. 7แสนล้านบาท และปี 2546 คาดว่าจะกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 แสนล้านบาท" ดร. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวอีกว่า รายได้ต่อครัวเรือนมีการขยับต่อเนื่อง เพียง 9 เดือนแรกปีนี้ ใกล้เคียงกับปี 2543 ทั้งปี ซึ่งถือว่าดีขึ้น ส่วนการขาดดุล ขณะนี้กำลังจะสิ้นสุดลง ดูได้จากปี 2543 ขาดดุล 1. 2 แสนล้านบาท ปี 2544 ขาดดุล 1. 1 แสนล้านบาท ปี 2545 ขาดดุล 1. 2 แสนล้านบาท ส่วนปี 2546 ทั้งปีรัฐบาลตั้งเป้าวางนโยบายจะขาดดุลเพิ่มอีก1.
วิกฤตเศรษฐกิจปี พ. ศ.
5 ซม. น้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ 0. 01 พระเกจิ: พระเกจิชื่อดังหลายรูป ชื่อวัด: วัดพระธาตุวาโย จ. ฉะเชิงเทรา พุทธคุณ: โชคลาภมั่งคั่ง ค้าขาย ร่ำรวย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เมตตา เจรจาการงาน เนื้อวัตถุมงคล: เนื้อโลหะ ขนาดวัตถุมงคล: 4 x 7 x 4. 5 ซม. น้ำหนักวัตถุมงคล: 0. 01 กก.
คาถารักแท้ โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สะระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติ จิตตังสะมาเรมะมะเอทิ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ (ให้บริกรรมคาถานี้กับลูกอมแล้วอมขณะที่คุยกับคนที่เรารัก จะทำให้เขาคนนั้นเกิดความรักจริงจังขึ้นมา) 8. คาถาใจอ่อน ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะอตใจ นะกาโร โหติ สัมภะโว ตรีนิกัตวานะ นะ การัง ปัญจะสัมภะวัง (ใช้ท่องก่อนที่จะพบเจรจากับคนที่เป็นเจ้าหนี้หรือใครก็ตาม จะทำให้ได้รับการผ่อนปรน ใจอ่อนได้ทุกที) 9. คาถาผูกใจคน โอมนะโมพุทธะ นะ มะ อะ อุ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ (ใช้สวดเมื่อต้องการให้คนทั่วไปรักใคร่ยินดี ใช้เสกกับแป้งหรือน้ำหอมก็ได้) 10. คาถามหาเสน่ห์ จันโทอะภกันตะโร ปิติ ปิโย เทวะมนุสสานัง อิตภิโยปุริ โสมะ อะ อุ อุ มะ อะ อิสวาสุ อิกะวิติ (ให้ภาวนาคาถานี้ ๓ จบก่อนออกไปพบคน จะทำให้คนที่ต้องไปพบเกิดความรักใคร่) รู้เรื่องนกสาริกาลิ้นทอง กับ อ. มดดำ ยิปซีคาราวาน Link Source:
SAM จัดงานเปิดบ้านวันหยุด ชวนลูกค้าเป็นหนี้เสีย NPL เจรจาแก้ไขหนี้ พร้อมจับมือคลินิกแก้หนี้ รับสมัครลูกค้าหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล นัดแรก 27-28 มี. ค. นี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส. ) หรือ SAM รุกช่วยลูกค้าที่เป็นหนี้เสีย NPL โดยจัดพื้นที่และเพิ่มเวลาบริการพิเศษ อำนวยความสะดวกลูกค้ากว่า 1, 000 ราย เข้ามาปรึกษา เจรจาหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ให้ได้ข้อยุติร่วมกัน ในงาน "เปิดบ้านวันหยุด" ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 27-28 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 8. 30-17. 00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางออก 4) กรุงเทพฯ ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ NPL ของ SAM ที่สนใจเข้าร่วมงาน "การเป็นหนี้ แบบ ไม่มีสิ้นสุด" คุณเป็นอย่างนี้อยู่หรือเปล่า?
เจรจากับทางธนาคารผู้ออกบัตร หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ทราบรายละเอียดส่วนนี้ แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถขอเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้บัตรเครดิตได้อีกทาง แถมยังสบายใจกว่าอีกด้วย โดยเราสามารถติดต่อ ขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินเพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ และเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยการคำนวณรายได้ของคุณต่อเดือน และยอดค้างชำระที่คุณสามารถชำระคืนได้ต่อเดือน แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับนโยบายและเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร 5.
คาถาใจอ่อน ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะอตใจ นะกาโร โหติ สัมภะโว ตรีนิกัตวานะ นะ การัง ปัญจะสัมภะวัง คาถาใจอ่อนนี้ ท่านว่าให้ใช้ท่องก่อนที่จะเข้าพบเจรจากับคนที่เป็นเจ้าหนี้หรือใครก็ตามที่เราต้องการทำให้เขาใจอ่อนคล้อยตามเรา จะทำให้เขาใจอ่อน ผ่อนปรนหนี้ให้เรา คาถาใจอ่อนนี้ เป็นอีกหนึ่งคาถาที่ผมแนะนำให้ใช้สวดภาวนาไว้เวลาเดินทางไปเจรจาติดต่อธุรกิจการงาน เข้าหาผู้ใหญ่ได้รับเมตตาดีนัก