วันไหนแดดจัดๆ ควรนำที่นอนและหมอนออกมาตากแดดบ้าง ช่วยฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่นอับและความชื้น 19. ควรให้ช่างมาล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง 20. เพิ่มความหอมความสดชื่นให้ห้องนอนด้วยการหาดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมที่ชอบมาปักแจกันไว้ หรือจะเป็นพวกน้ำมันหอมระเหย กลิ่นจากพืชธรรมชาติ กลิ่นที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับสบายขึ้น ตัวอย่างเช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ เป็นต้น สำหรับ สไตล์ในการตกแต่งห้องนอน อันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน ลองทำตามข้อแนะนำข้างต้นรับรองว่าท่านจะนอนหลับอย่างมีความสุข ตื่นอย่างสดชื่นจิตใจแจ่มใส พร้อมไปลุยงานหนักได้อย่างสบายแน่นอน ที่มาและการอ้างอิง: กระดูกและข้อ ผิวหนัง หัวใจและหลอดเลือด โดย: ภุมรินทร์ ณ วิเชียร มัณฑนากร HealthToday August 2017
ปัญหาผนังบาง เก็บเสียง "ไม่อยู่" คอนโดมิเนียมมักใช้ผนังห้องร่วมกันอยู่แล้ว ปัญหาเสียงดังรบกวนกันไปมาจึงเห็นได้บ่อยๆ ลองแก้ด้วยการติดแผ่นกันเสียง ทำ ห้องเก็บเสียง ซึ่งวิธีนี้สามารถป้องกันเสียงได้ในระดับดีเยี่ยม ซึ่งเทคนิคนี้นิยมใช้ในห้องปฏิบัติกิจกรรมทางดนตรีทั้งหลาย ตกแต่งห้องด้วยวอลเปเปอร์หนา ซึ่งมีความสามารถในการดูดซับและลดทอนเสียง ในปัจจุบันวอลเปเปอร์มีหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการของเจ้าของห้อง การติดวอลเปเปอร์เข้ากับผนังห้องสามรถช่วยดูดซับเสียงสะท้อนได้ดีในระดับหนึ่ง แต่จะไม่เท่ากับการติดแผ่นกันเสียง 3. ใช้ผ้าเป็นวัสดุตกแต่งลดคลื่นเสียง ผ้าเป็นวัสดุที่ช่วยดูดซับเสียงได้ดี เนื่องจากคลื่นสะท้อนของเสียงจะลดความรุนแรงลงหากสัมผัสกับผ้า เลือกติดผ้าม่านที่มีความหนา เลือกโซฟาที่บุด้วยผ้าเป็นวัสดุ หรือปูพรมผืนหนา ๆ ก็ช่วยให้ลดเสียงรบกวนได้พอประมาณค่ะ 4. ชั้นวางหนังสือลดเสียง การเพิ่มความหนาให้กับผนังอีกนิดด้วยชั้นวางหนังสือ เป็นวิธีง่ายๆที่หลายคนมองข้าม โดยติดชั้นวางหนังสือห่างจากผนังเล็กน้อย ก็จะช่วยป้องกันเสียงได้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนังสือที่วางอยู่นั้นก็สามารถดูดซับเสียงได้เช่นกัน นอกจากจะช่วยเก็บเสียงในห้องและป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกห้องคอนโดแล้ว ชั้นหนังสือยังเป็นของตกแต่งห้องที่ดูดีอีกด้วย 5.
ชอบลำโพงที่คลื่นมันกระแทกหน้านี้แหละ แต่ไปศึกษาดูแล้ว จะทำห้องเก็บเสียง สู้ราคาไม่ไหว ความคิดเห็นที่: 6 LosInBlue 25/10/2020 09:52:46 93 ปรึกษาช่างที่รับทำ ห้องเก็บเสียงสำหรับฟังเพลง ห้องเก็บเสียงสำหรับ Studio บางเจ้าเหมาแค่ 2 หมื่นกว่าๆครับ ติดพนังยิปซั่ม 2 ชั้น พร้อมอัดโฟมกันเสียงตรงโครงเหล็กเว้นช่องว่างระหว่างผนัง + หน้าต่างสองชั้นกันเสียง + ประตูกันเสียง (แบบถูกๆทำเองหลักสอง-สามพัน) + กันเสียงฝ้า (ถ้าจำเป็น) บางเจ้าก็หลัก 5 หมื่นครับ แต่ถ้าจ้างช่างเฉพาะทาง สำหรับทำห้องกันเสียงจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ ความคิดเห็นที่: 7 25/10/2020 10:04:55 ปล.
เครื่องปรับอากาศหรือพัดลม ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งคือ ติดตั้งในแนวขวางกับเตียงนอน ขยับเยื้องไปทางปลายเตียงเล็กน้อย เพราะการติดตั้งไว้ที่เหนือศีรษะหรือปลายเท้าอาจทำให้เราไม่สบายจากการได้รับไอเย็นโดยตรงเป็นระยะเวลานาน และเมื่อต้องการปิดเครื่องปรับอากาศ ควรปิดห้องไว้ก่อนสัก 15 นาที แล้วค่อยเปิดหน้าต่างให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา เนื่องจากถ้าปล่อยให้อากาศร้อนเจอกับกาศเย็นทันทีมวลอากาศจะควบแน่นกันเป็นไอ ทำให้มีความชื้นสะสมตามที่นอนและวัสดุที่ทำจากผ้า ตามมาด้วยกลิ่นอับภายในห้องนอนซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง 15. เปิดหน้าต่างประตูรับสายลมและแสงแดด ห้องนอนที่ดี ควรมีหน้าต่างและประตูที่สามารถเปิดรับแดดยามเช้าเพื่อความสดชื่นแจ่มใส รับลมที่จะช่วยให้มีการระบายอากาศ เป็นการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากมีหน้าต่างน้อยบาน การติดตั้งพัดลมดูดอากาศก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ 16. ควรดูดฝุ่นในห้องนอนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อกำจัดการสะสมของฝุ่นตามพื้น บนโต๊ะทำงาน และใต้เตียงอันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ หอบหืด 17. ที่นอนและเครื่องนอน เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ให้ซักทำความสะอาดบ่อยๆ หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง 18.
เลือกแผ่นฝ้า ออกแบบให้กันเสียง ฝ้าเพดานเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่โดยปกติเกือบทุกบ้านนิยมทำกัน เพื่อป้องกันความร้อน ป้องกันเศษฝุ่นละอองจากใต้โถงหลังคา อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นระเบียบสวยงามภายในบ้าน สำหรับการเลือกฝ้าเพดานเพื่อป้องกันเสียงรบกวน ควรเลือกใช้แผ่นฝ้ายิปซัม (ฝ้าแผ่นเรียบ) ที่มีขนาดความหนา 10 ม. ม.
โต๊ะข้างเตียง สำหรับเก็บของ วางหนังสือ ตั้งโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ หรืออาจจะใช้เป็นตู้ใบเล็กแทนสำหรับคนที่ชอบสะสมของ 11. โคมไฟ ห้องนอนเป็นห้องสำหรับพักผ่อน ดังนั้นการใช้แสงสว่างทั้งห้องจึงไม่จำเป็น มาเน้นให้สว่างเฉพาะจุดโดยใช้โคมไฟช่วย เช่น โคมไฟหัวเตียงสำหรับอ่านหนังสือ โคมไฟตั้งโต๊ะเวลาทำงาน มีให้เลือกหลายแบบหลายทรง ทั้งตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น แขวนผนังทรงกลม ทรงรี แล้วแต่ชอบ สำหรับหลอดไฟแนะนำให้ใช้หลอดสี cool white แสงชนิดนี้จะสร้างบรรยากาศในการนอนได้ดีมากเลยทีเดียว 12. รูปภาพแขวนผนัง ใครที่ชอบประดับผนังด้วยรูปภาพเพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนก็ควรเลือกภาพที่ดูแล้วสดชื่น เจริญตา เจริญใจ เช่น ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพดอกไม้ ภาพวาดแนวศิลปะ ให้เลือกภาพใหญ่ขนาดเดียว หรือถ้าภาพที่เลือกในขณะมีภาพเล็กหลายๆ ภาพ การติดผนังก็ควรคำนวณระยะห่างของแต่ละภาพให้เหมาะ ถ้าจะสร้างบรรยากาศขึ้นอีกนิด ใช้ไฟ down light หลอด halogen ชนิดปรับมุมได้ สาดเข้าไปที่รูปภาพจะได้บรรยากาศไม่แพ้โรงแรมชั้นหนึ่งเลยทีเดียว 13. ห้องนอน ไม่ควรปูพรมอย่างยิ่ง เพราะพรมเก็บฝุ่นได้ดี อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ แต่ถ้าชอบจริงๆ แนะนำให้ใช้พรมชิ้นเล็กวางเฉพาะจุด เช่น วางไว้ข้างเตียง ปลายเตียง 14.
กรณีที่สอง หากไม่สามารถปิดทึบได้ทั้งหมดเลย อยากได้แสงหรือช่องเปิดระบายอากาศ การติดตั้งระบบกระจกที่กันเสียงได้ดี เช่น หน้าต่างวินเซอร์รุ่น Signature ที่ใช้กระจกความหนาอย่างน้อย 10 มม โดยถ้าเป็นกระจกลามิเนตก็จะยิ่งดี ข้อสำคัญคือห้ามใช้หน้าต่างแบบบานเลื่อนเด็ดขาด ต้องใช้เป็นหน้าต่างหรือประตูแบบบานเปิดเดี่ยวเท่านั้น!!! เพราะหน้าต่างบานเลื่อนมีรอยรั่วเยอะทำให้เสียงลอดผ่านออกมาได้ดี เสียงเข้ามาภายในบ้านเราได้ยังไงกัน?? 1. เสียงพยายามเล็ดลอดเข้ามาตามรอยรั่ว ต่างๆ บริเวณโดยรอบบ้าน 2. เสียง ทะลุผ่านผนัง กระจก ประตู ทึบแต่มีน้ำหนักเบาเข้ามาได้ตรงๆ เสียงจะชอบวิ่งเข้าหาตามรอยรั่วภายในบ้านได้ดี และเราจะได้ยินเสียงที่วิ่งผ่านตามรอยรั่วได้ชัดกว่าเสียงที่วิ่ง ทะลุผนังตรงๆ!! ที่มาของเสียงรบกวนรอบบริเวณบ้านเดี่ยว 1. เสียงจากเครื่องขยายในที่สาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน ลานกิจกรรม ห้างสรรพสินค้า 2. เสียงจากยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องบิน รถไฟ (ทั้งรถราง และรถไฟฟ้า) 3.