กระบวนการวาทกรรม, 48 (2), 119-138. Graesser, A., นักร้อง, M. และ Trabasso, T. (1994) การสร้างการอนุมานระหว่างการทำความเข้าใจข้อความบรรยาย. รีวิวจิตวิทยา, 101 (3) หน้า 371-395. Kispal, A. (2008) การสอนที่มีประสิทธิภาพของทักษะการอนุมานเพื่อการอ่าน: การทบทวนวรรณกรรม. รากฐานแห่งชาติเพื่อการวิจัยทางการศึกษา ปารีส, S., Lindauer, B. และ Cox, G. (1977) การพัฒนาความเข้าใจเชิงอนุมาน พัฒนาการเด็ก, 48 (4), p. 1728-1733. Puche, R. (2001) การอนุมานและการฝึกความโน้มถ่วงในเด็กในภาคการศึกษาที่สองของชีวิต จิตวิทยาจากทะเลแคริบเบียน, 8, p. 63-93. Zeithamova, D., Schlichting, M. and Preston, A. (2012) ฮิบโปและเหตุผลเชิงอนุมาน: การสร้างความทรงจำเพื่อนำทางการตัดสินใจในอนาคต. พรมแดนในระบบประสาทของมนุษย์, 6, p. p 1-14.
จากประสบการณ์ 2. จากเหตุผล 3. จากผู้รู้ และ 4.
สมมุติฐาน ( Hypothesis) ความหมายของสมมติฐาน สมมติฐาน คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล หรือสมมติฐานคือข้อความที่อยู่ในรูปของการคาดคะเนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัว หรือมากกว่า 2 ตัวเพื่อใช้ตอบปัญหาที่ต้องการศึกษา สมาติฐานที่ดีมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 2 ประการคือ 1. เป็นข้อความที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2. เป็นสมมติฐานที่สามารถทดสอบได้โดยวิธีการทางสถิติ ชนิดของสมมุติฐาน สมมติฐานมี 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ สมมติฐานทางวิจัยและสมมติฐานการสถิติ 1. สมมติฐานทางวิจัย (research hypothesis) เป็นการเขียนคาดการณ์ที่เกิดขึ้น หรือแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัวขึ้นไป เพื่อสื่อให้ผู้อ่านทราบว่า ผู้วิจัยสงสัยและคาดการณ์ประเด็นปัญหาวิจัยแต่ละประเด็นไว้ว่าอย่างไร และแสดงแนวทางการทดสอบปัญหาในแต่ละประเด็นไว้อย่างไร แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ 1.
การไม่กินอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายขาดพลังงาน และจะมีผลต่อการเรียนรู้และความจำ เพราะสารอาหารหลักที่ให้พลังงานคือกลูโคสจากอาหาร ดังนั้น การกินอาหารเช้าจึงทำให้สมองทำงานได้ดี โดยเฉพาะเด็กนักเรียนจะช่วยให้มีสมาธิในการเรียน ข้อใดไม่อาจอนุมานได้จากข้อความนี้ ก. นักเรียนควรกินอาหารเช้าเพราะจะช่วยให้เรียนหนังสือได้ดีขึ้น ข. ผู้ใหญ่อาจงดอาหารเช้าได้เพราะไม่ได้อยู่ในวัยเรียน ค. ทุกคนควรกินอาหารเช้าเพราะจะช่วยการทำงานของสมอง ง. อาหารเช้ามีประโยชน์เพราะทำให้ร่างกายได้รับพลังงาน เฉลย คำตอบที่ถูกคือ ข้อ ข อาหารเช้าสำคัญต่อทุกคน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ต้องใช้พลังงานในการทำกิจกรรมของตนทั้งนั้น เป็นการอนุมานแบบนิรนัย 2. ข้อใดใช้วิธีการอนุมานแบบอุปนัย ก. เธอจะต้องถูกทำโทษตามกฎของโรงเรียน หากเธอลอกข้อสอบเพื่อน ข. หมอบอกว่าคนที่เป็นหวัดอย่างเธอ ไม่ควรอาบน้ำตอนดึก ค. น้ำคงจะท่วมกรุงเทพฯและปริมณฑลในปีหน้าเหมือนที่ท่วมหนักในปีนี้ ง. ถ้าเธออยากเป็นคนรอบรู้ ควรอ่านหนังสือมากๆเพราะการอ่านหนังสือจะทำให้ความรู้กว้างขวาง เฉลย คำตอบที่ถูกคือ ข้อ ค การที่น้ำท่วมหนักในปีนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นอุบัติภัยที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด หากรัฐบาลมีการวางแผนการจัดการน้ำอย่างดี เชื่อได้ว่าปีหน้าคงจะรับมือได้
สุนทรี พบว่า ทุกครั้งที่คุณแม่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวผัดไทยจะมีต้นกุยช่ายมาด้วยทุกครั้ง จึงสรุปว่า ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยต้องมีต้นกุยช่าย 2. ชาวสวนมะม่วงสังเกตมาหลายปีพบว่า ถ้าปีใดมีหมอกมาก ปีนั้นจะได้ผลผลิตน้อย เขาจึงสรุปว่าหมอกเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตน้อย ต่อมามีชาวสวนหลายคนทดลองฉีดน้ำล้างช่อมะม่วง เมื่อมีหมอกมากๆ พบว่าจะได้ผลผลิตมากขึ้น จึงสรุปว่า การล้างช่อมะม่วงตอนมีหมอกมากๆ จะทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้น 3. นายสมบัติ พบว่า ทุกครั้งที่ทำความดีจะมีความสบายใจ จึงสรุปว่า การทำความดีจะทำให้เกิดความสบายใจ 4. ทุกเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกและตอนเย็นพระอาทิตย์จะตกทางทิศตะวันตก จึงสรุปว่า พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก 5. ในการศึกษาลักษณะของสิ่งมีชีวิต ดังต่อไปนี้ เหตุ 1) คนทุกคนต้องหายใจ 2) นกทุกตัวต้องหายใจ 3) แมวทุกตัวต้องหายใจ 4) เต่าทุกตัวต้องหายใจ 5) เสือทุกตัวต้องหายใจ จึงสรุปว่า สัตว์ทุกชนิดต้องหายใจ 6. จากการสังเกตต่อไปนี้ 1) สมชายเป็นไข้หวัดใหญ่ถ้ากินฟ้าทะลายโจร แล้วจะหายจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ 2) สมหมายเป็นไข้หวัดใหญ่ถ้ากินฟ้าทะลายโจร แล้วจะหายจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ 3) สมปองเป็นไข้หวัดใหญ่ถ้ากินฟ้าทะลายโจร แล้วจะหายจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ 4) สมหวังเป็นไข้หวัดใหญ่ถ้ากินฟ้าทะลายโจร แล้วจะหายจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงสรุปว่า คนทุกคนที่เป็นไข้หวัดใหญ่ถ้ากินฟ้าทะลายโจร 7.
พวกเราและพวกท่านเป็นคนดี แต่ไม่ใช่พวกเดียวกัน ๒. พวกเราและพวกท่านเป็นคนดี และพวกท่านบางคนเป็นพวกเดียวกันกับเรา ๓. พวกเราและพวกท่านเป็นคนดี และพวกท่านทุกคนเป็นพวกเดียวกันกับเรา จะเห็นว่าข้อสรุปในตัวอย่างเป็นไปตามข้อสรุป ๓. เท่านั้น แต่ข้อสรุป ๑. และ ๒.
ตัวอย่างของการอนุมานแบบนี้คือเมื่อเข้าใจถึงคุณธรรมของข้อความ. - การอนุมานภายหลังการอ่าน มีการอนุมานที่ได้รับหลังจากอ่านข้อความและเสริมข้อมูลที่อ่านเพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมการกระทำหรือเหตุการณ์บางอย่างถูกกล่าวถึง. สิ่งเหล่านี้อาจเป็นผลสืบเนื่องเชิงสาเหตุการอนุมานด้วยเครื่องมือการอนุมานเชิงปฏิบัติและการอนุมานเชิงคาดการณ์. คุณสมบัติหลัก การทำความเข้าใจกับข้อความเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อนซึ่งจะต้องส่งผลให้เกิดการแสดงความหมายของข้อความ อย่างไรก็ตามความหมายของข้อความไม่ได้มาจากคำที่เขียน แต่มันอยู่ในใจของผู้อ่าน. - ความเข้าใจเชิงอนุมานนั้นนอกเหนือไปจากการทำความเข้าใจข้อมูลที่นำเสนอในข้อความเท่านั้น ผู้อ่านต้องเริ่มจากความรู้ที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้. - การคิดเชิงอนุมานมีความสำคัญเพราะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์และเข้าใจความจริงที่ล้อมรอบเราซึ่งทำให้เราไม่ต้องพึ่งพาสิ่งที่ได้รับ แต่เราสามารถไปต่อได้ ในกรณีของข้อความความสามารถนี้ช่วยให้เราสามารถอ่านระหว่างบรรทัด. - ความสามารถในการอนุมานความสัมพันธ์ระหว่างสองเหตุการณ์นี้หรือมากกว่านั้นต้องใช้เหตุผลที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางจิตที่แตกต่างกัน.
การอนุมานด้วยวิธีนิรนัย คือการแสดงเหตุผลจากส่วนรวมไปหาส่วนย่อย ๒.