00-01. 00 น. ของคืนวันที่ 31 มกราคม 2565 และเช้ามาก็จะเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ฤกษ์ไหว้สำหรับยามแรกนั้นเป็นยามชวด หรือยามหนู 23. ของคืนวันที่ 31 มกราคม 2565 เพราะฉะนั้น ผู้ที่เกิดในปีมะเมีย ให้หลีกเลี่ยงการขอพร หรือเชิญองค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยเข้าสู่บ้านในเวลานี้ ให้ทำยามฉลูเป็นต้นไป คือ ตั้งแต่ 01.
(ไหว้เวลากลางดึกไปจนถึงช่วงเช้ามืดที่ย่างเข้าสู่วันตรุษจีน) ได้แก่ 1. อาหารเจ (เจไฉ่) 5 อย่าง ได้แก่ ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนู 2. ขนมอี๊ (ขนมบัวลอยจีนสีชมพู/แดง) 5 ถ้วย หมายถึง ให้ชีวิตราบรื่น ง่ายดาย มีความสุข 3. น้ำชา 5 ถ้วย 4. ผลไม้มงคล 5 หรือ 7 อย่าง เช่น ส้ม กล้วย สาลี่ แก้วมังกร สับปะรด องุ่นแดง ทับทิม 5. ขนมจันอับ เพี้ยนมาจากคำว่า 'จั๋งอั๊บ' ในภาษาจีนแปลว่า 'ปิ่นโต' หมายถึง ความสุขที่เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้นไป และจริงๆ แล้วจันอับไม่ใช่ชื่อขนม แต่เป็นชื่อของปิ่นโตหรือกล่องที่ใช้ใส่ขนมแห้งหลากหลายชนิด ได้แก่ น้ำตาลกรวด ฟักเชื่อมอบแห้ง ถั่วก้อน ถั่วตัด งาตัด โซถึง ขนมปั้นล่ำ ขนมก้านบัว ขิงเชื่อม ข้าวพอง ตังเม ขนมโก๋แป้งถั่ว วุ้นแท่ง ตังเมหลอด กระดาษไหว้เจ้า (กระดาษเงินกระดาษทอง) สำหรับ "ของไหว้" หมวดสุดท้ายคือ กระดาษไหว้เจ้า ที่เมื่อนำไปไหว้แล้วตามประเพณีจีนก็จะนำไปเผาไฟ เพื่อใช้สื่อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้าที่เราไหว้ขอพร ได้แก่ 1. ชุดกระดาษไหว้เจ้าที่ ตั่วกิม: กระดาษงินกระดาษทองขอบส้ม พับเป็นเคียวเท่าซี่และมีกระดาษสีแดงแปะตรงกลาง มักจะนำไปใส่ไว้ในกระทงสีเหลืองอีกชั้น ซึ่งตัวกระทงก็จะมีคำอวยพร เช่น ครอบครัวเป็นสุข มีเงินมีทอง เอาไว้ไหว้เจ้าที่ ขอพรให้มีความสุข การงานเจริญรุ่งเรือง เง็งเตี๋ย/หงิ่งเตี๋ย: เป็นกระดาษเงินกระดาษทองแผ่นใหญ่ ด้านหนึ่งเป็นสีเงินอีกด้านหนึ่งเป็นสีทอง ด้านในตรงกลางมีอั่งจี้ 1 แผ่น ใช้ไหว้เจ้าที่ เพื่อเป็นสิริมงคลและให้โชคลาภ 2.
ห้ามทำของแตก ชาวจีนเชื่อว่าการทำของแตกในวันตรุษจีน เป็นลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยกหรือมีคนเสียชีวิต ฉะนั้นพวกเขาจะระมัดระวังและไม่ทำสิ่งของแตกหรือชำรุดเด็ดขาด แต่ถ้าหากเผลอทำพลาดโดยไม่ตั้งใจ ก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการพูดว่า "luo di kai hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น 3. ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่าการใช้ของมีคมตัดสิ่งของในวันตรุษจีน ถือเป็นการตัดโชคดีไปด้วย ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ใช้ของมีคม เช่น มีดและกรรไกร ในวันปีใหม่เด็ดขาด 4. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน ชาวจีนเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ฉะนั้นการซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนเป็นการลบหลู่ท่านนั่นเอง 5.
คุณสมชัยให้ข้อคิดเห็นว่า "โดยส่วนตัวไม่บังคับถ้าต่อไปรุ่นลูกเราเขาจะไม่ไหว้ เด็กรุ่นนี้บังคับไม่ได้ แต่เราเพียงทำหน้าที่ให้ความเข้าใจ เมื่อเขาถามเรื่องเหล่านี้ เราต้องมีคำตอบให้ บางครั้งต้องมีเรื่องราวที่มีสาระ มีเหตุผลที่ทำให้เกิดมุมสะท้อนให้เขาได้เห็นนัยยะสำคัญ เห็นแก่นของงานไม่ใช่เปลือก และคิดจะสืบสานต่อไป" ข่าวที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไลฟ์สไตล์ 20 ม. ค. 2565 เวลา 17:20 น. 109. 0k ก้าวสู่ "ปีเสือ" แบบฉบับชาวแดนมังกรกับ "ตรุษจีน 2565" หรือวันปีใหม่จีน ซึ่งตามธรรมเนียมประเพณีจะมีวันสำคัญหลักๆ 3 วันด้วยกันคือ "วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว" ชวนเช็คปฏิทินจีนว่าตรงกับวันที่เท่าไร? และต้องทำอะไรบ้าง? การเฉลิมฉลองปีใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งกับเทศกาล " ตรุษจีน 2565 " สำหรับลูกหลานแดนมังกรแล้วถือเป็นงานเฉลิมฉลองและการรวมญาติครั้งใหญ่ในรอบปี ซึ่งตามธรรมเนียมประเพณี ชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนจะมีการฉลองปีใหม่ใน 3 วันสำคัญได้แก่ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว แต่ละวันมีความสำคัญอย่างไร? และมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำสืบต่อกันมาอย่างไรบ้าง? ก รุงเทพธุรกิจออนไลน์ หาคำตอบมาให้แล้ว ดังนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ตาราง "สีเสื้อมงคล" เฮงยืนหนึ่งรับ "ตรุษจีน 2565" โดย อาจารย์ คฑา ชินบัญชร ก่อนไหว้เจ้า "ตรุษจีน 2565" รู้จัก "ไท้ส่วยเอี้ย" ทำไมต้องไหว้แก้ปีชง? "ตรุษจีน 2565" มาทำความรู้จัก 5 วันสำคัญ รับเทศกาล "ปีใหม่จีน" "ตรุษจีน 2565" เสริมดวง ไหว้ศาลเจ้าที่ไหนได้บ้าง 1. วันจ่าย ตรงกับวันที่ 30 มกราคม 2565 เป็นวันที่ลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีนจะต้องซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ พร้อมทำความสะอาดบ้าน ตกแต่งบ้านเรือนด้วยคำอวยพรปีใหม่ มักเป็นกระดาษสีแดงที่เขียนด้วยอักษรจีน รวมไปถึงโคมแดง และของประดับสีแดงต่างๆ ซึ่งเป็นสีแห่งโชคลาภและความเป็นสิริมงคล 2.
วางโต๊ะไหว้ไว้ตรงหน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา 2. วางกระถางธูปไว้หน้าแท่นบูชา หรือเทวรูป จัดให้มีระยะห่างพอสมควร ป้องกันไม่ให้เศษหรือก้านธูปที่ติดไฟหล่นลงมาใส่เทวรูป 3. วางเชิงเทียนขนาบข้างซ้ายและขวาของกระถางธูป 4. วางโถกำยานไว้หน้ากระถางธูป และให้วางแจกันดอกไม้สดขนาบไว้ข้างซ้ายและขวา แต่ต้องไม่บังเชิงเทียน 5. วางถ้วยน้ำดื่ม หรือโถน้ำดื่ม ถัดออกมาจากโถกำยาน 6. วางถ้วยน้ำชา และถ้วยเหล้า ถัดออกมาจากถ้วยน้ำดื่ม * หมายเหตุ: จำนวนถ้วยน้ำดื่ม ต้องเท่ากับถ้วยน้ำชาและเหล้าเสมอ เช่น หากถวายน้ำดื่ม 2 ถ้วย ก็ต้องถวายเหล้าและน้ำชาที่ 2 ถ้วย เท่ากัน แต่จำนวนสูงสุดอยู่ที่ 5 ถ้วย 7. ถัดมาจากแถวน้ำชาและเหล้า จะเป็นเครื่องคาว 8. ถัดจากเครื่องคาว เป็นเครื่องหวาน และผลไม้ ซึ่งจำนวนต้องเท่ากัน เช่น ถ้ามีเครื่องคาว 3 ที่ ก็ต้องจัดเครื่องหวาน 3 ที่ และผลไม้ 3 ที่ (จำนวนเครื่องคาว-หวาน-ผลไม้ ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับจำนวนน้ำชา น้ำดื่ม เหล้า) 9. กระดาษเงิน กระดาษทอง ฯลฯ ส่วนกรณีการไหว้เจ้าที่ หรือตี่จู่เอี้ย อาจารย์วิศิษฎ์ เตชะเกษม ผู้ศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมจีนชื่อดังของเมืองไทย ได้แนะนำให้ใช้ข้าวสวย 5 ถ้วย ชา 5 ถ้วย ส้ม 5 ลูก หากจะมีของหวานก็ควรเลือกเป็น 5 ชิ้น หรือ 5 ชนิด เช่นกัน อันเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ทอง ไม้ ไฟ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า จริง ๆ แล้วการจัดโต๊ะไหว้เจ้ามีรูปแบบไม่ตายตัว ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เช่น ในภาคใต้ของไทย ก็อาจมีเครื่องเซ่นไหว้และพิธีการมากกว่านี้ ทำให้การจัดโต๊ะจะมีเอกลักษณ์แตกต่างออกไป ดังนั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก, เรื่องที่คุณอาจสนใจ