ข้อดีคือ เมื่อมีสิ่งมีชีวิตย่อมต้องมีของเสียอยู่เสมอ เพราะสิ่งมีชีวิตต้องกันและขับถ่ายออกมา โดยสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผลิตกำมะถัน หรือ ปรอท แถมยังปล่อยไนโตรเจนน้อยกว่าถ่านหิน เป็นวิธีที่ฉลาดในการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงานที่มีค่า โดยการใช้ของเสียเป็นพลังงานช่วยจะช่วยลดปริมาณขยะที่ทิ้งลงในหลุมฝังกลบ ที่สำคัญคือใครก็สามารถผลิตพลังงานชีวมวลได้ ช่วยลดความต้องการด้านพลังงานจากโรงไฟฟ้า 2. ข้อเสียคือ เราอาจเสียพื้นที่ใช้ประโยชน์ในการทำฟาร์ม หรือการสร้างที่อยู่อาศัย ถึงแม้บอกว่าเป็นพลังงานที่รักโลก แต่มันก็ยังคงปล่อยระดับ CO2 อยู่เช่นกัน จึงบอกได้ว่ามันไม่ใช่พลังงานสะอาดแบบ 100% แถมยังปล่อยก๊าซมีเทนที่มีอันตรายกว่าอีกหลายเท่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคในตอนนี้คือการผลิตมวลชีวมวลจำนวนมากนั้น ต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านชลประทานที่กว้างขวาง แถมยังมีราคาแพงเป็นอย่างมาก ตอนนี้จึงเป็นได้แค่เชื้อเพลิงทางเลือกเท่านั้น สนับสนุนข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับพลังงานที่มีความสำคัญ จากเว็บไซต์ gclub การเดิมพันคาสิโนออนไลน์ที่สามารถเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง
การเผาไหม้โดยตรง (Combustion) เป็นการนำชีวมวลมาเผา จะได้ค่าความร้อนที่แตกต่างกันตามชนิดของชีวมวล ความร้อนที่ได้สามารถนำไปใช้ในการผลิตไอน้ำที่มีอุณหภูมิ และความดันสูง ไอน้ำนี้จะถูกนำไปขับกังหันไอน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าต่อไป ชีวมวลประเภทนี้ คือ เศษวัสดุทางการเกษตร และเศษไม้ 2. การผลิตก๊าซ (Gasification) เป็นกระบวนการเปลี่ยนเชื้อเพลิงแข็ง หรือชีวมวลด้วยกระบวนการเผาแบบอัดอากาศได้ก๊าซเชื้อเพลิง เรียกว่า ก๊าซสังเคราะห์ (Syngas) มีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน ไฮโดรเจน และ คาร์บอนมอนอกไซด์ สามารถนำไปใช้กับเครื่องยนต์ก๊าซ (Gas Engine) 3. การหมัก (Fermentation) เป็นการนำชีวมวลมาหมักด้วยแบคทีเรียในสภาวะไร้อากาศ ชีวมวลจะถูกย่อยสลาย และแตกตัวได้ก๊าซชีวภาพ ที่มีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน นำก๊าซมีเทนใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์สำหรับผลิตไฟฟ้า 4.
ชีวมวล ( Biomass) เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานจากธรรมชาติที่อยู่ในรูปของสารอินทรีย์และสามารถ นำพลังงานที่กักเก็บไว้เหล่านั้น มาใช้ผลิตพลังงานได้ สารอินทรีย์ที่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานได้แก่ เศษไม้ขยะ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เป็นต้น กระบวนการแปรรูปชีวมวลเป็พลังงาน โดยผ่านกระบวณการ 2 แบบ คือ 1. การเผาไม่โดยตรง(Direct combustion) การเผาไม่โดยตรง วิธีถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยโบราณ ในการหุงต้มอาหาร หรือการต้มน้ำผลิตไอน้ำเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักร 2. การเผาไหม้ในสภาพอากาศ ( Pyrolysis) การเผาไหม้ในสภาพอับอากาศมี 3 วิธีคือ 1. แก๊ส ผ่านกระบวนการเปลี่ยนเชื้อเพลิงแข็งหรือชีวมวลให้เป็นแก๊สเชื้อเพลิง เรียกว่า แก๊สชีวภาพ (biogas) 2. ของแข็ง ผ่านกระบวนการเผ่าถ่าน ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์ในการหุงต้มแล้ว ยังสามารถดูดกลิ่นได้ด้วย 3. ของเหลว ผ่านกระบวนการ ผลิตน้ำมันดิบชีวภาพ ซึงสามารถนำไปใช้เป็นดีเซลได้ อ งค์ประกอบของ ชีว มวลที่มีผลต่อการผลิตไฟฟ้า 1. การกระจายตัวของชีวมวล: หากชีวมวลมีการกระจัดกระจายตัวในการเพราะปลูก ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น เพราะมีต้นทุนในการขนส่งชีวมวลเพิ่มขึ้น 2. ขนาด: ถ้าชีวมวลมีขนาดใหญ่เกินไป ประสิทธิภาพการเผาไหม้จะต่ำจึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการย่อยเพิ่มขึ้น 3.
ได้ให้ความสำคัญในด้านการผลิตไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงควบคู่กับการดูแลสังคมสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน กฟผ. ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร (KAPI) และการยางแห่งประเทศไทย (กยท. )
ปัจจุบันในหลายประเทศพยายามเลือกใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากปัจจัยเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซอย่างมาก ในขณะเดียวกันพลังงานชีวมวลก็เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สำคัญและโดดเด่นในประเทศไทย ซึ่งเรามีขีดความสามารถในการพัฒนาไปได้อีกมากและถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตามอง โดย ดร.
ความชื้น: ชีวมวลบางชนิดมีความชื้นสูงมาก เช่น กากมันสำปะหลัง หรือส่าเหล้าต้องมาผ่านกระบวนการบีบอัดเพื่อลดความชื้นก่อนนำไปเผา 4. สิ่งเจือปน: ในชีวมวลมีสิ่งเจือปนหลายชนิด เช่น เศษหิน ดิน 5. ปริมาณขี้เถ้า: การออกแบบห้องเผาไหม้จะต้องพิจารณาถึงการรวบรวมขี้เถ้าออกจากห้องเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ข้อดี - ข้อจำกัดในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน ชีว มวล ข้อดี 1. ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุหรือใช้ทางการเกษตร จึงเป็นแหล่งเชื้อเพลิงราคาถูก 2. เป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีกำมะถันต่ำกว่าเชื้อเพลิง ฟอสซิล และไม่ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก 3. ช่วยสร้างงานในพื้นที่และก่อให้เกิดรายได้กับชุมชนผ่านทางภาษีท้องที่ 4. เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเศษวัสดุการเกษตรที่เคยทิ้ง กลับมามีราคาขายได้ 5. สร้างความมั่นคงต่อระบบผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลขนาด เล็กกระจายอยู่ทั่วประเทศ ลดปัญหาไฟตกไฟดับ ข้อจำกัด 1. ชีวมวลเป็นวัสดุที่เหลือใช้จากการแปรรูปทางการเกษตร ทำให้มีปริมาณที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ การบริหารจัดการเชื้อเพลิงทำได้ยาก 2. ราคาชีวมวลแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 3.
เมื่อการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม หลายประเทศจึงมีการมองหาพลังงานทดแทน ซึ่งนอกจากแสงอาทิตย์และลมแล้ว พลังงานชีวมวล และ พลังงานชีวภาพ ก็มีการพูดถึงเป็นวงกว้าง แต่ทว่ายังมีคนหลายกลุ่มสับสนระหว่างพลังงานสองชนิดนี้ เราจึงจะมาทำความเข้าใจว่าพลังงานทั้งสองต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้พลังงานแบบไหนกันแน่!
รุ่นที่ 60) พ. ศ. 2560–2561 โดย นายหร่อหยา จันทรัตนา ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ทำการศึกษาแนวทางการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เพื่อตอบสนองความ ต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมโดยใช้โรงไฟฟ้าชีวมวล การวิจัยได้ศึกษา การดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและปัญหาอุปสรรค ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (เมื่อ พ. 2555) ได้ทำการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการมีส่วนร่วมรับรู้ ของภาคประชาชนต่อโครงการพลังงานชีวมวล เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ชุมชน และพัฒนาต้นแบบของการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า พลังงานชีวมวล สร้างความรู้ความเข้าใจ และลดกระแสการต่อต้านการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล เริ่มการสำรวจข้อมูลความสัมพันธ์ชุมชน ผ่านการคัดเลือกพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาแนวทางการมีส่วนร่วมรับรู้ ของภาคประชาชนต่อโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยคัดเลือกโรงไฟฟ้าชีวมวล จาก 76 แห่งให้เหลือตัวแทน โรงไฟฟ้าชีวมวล ระดับภาค 4 แห่ง ได้แก่ 1. โรงไฟฟ้า บริษัท น้ำตาลไทย เอกลักษณ์ ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมือง จังหวัด อุตรดิตถ์ 2.