30, 000, 000 ภารกิจเฝ้าระวังไฟฟ้าในภูมิภาค 22, 000, 000 ภารกิจเฝ้าระวังไฟฟ้าในเขตนครหลวง 3, 000, 000 ภารกิจสื่อสารคมนาคม 51, 024, 000 ภารกิจขนส่งหีบบัตรเลือกตั้ง หนังสือแจ้งเจ้าบ้าน และวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง (บริษัทไปรษณีย์ไทย) 160, 000, 000 ปรับปรุงระบบรายงานผลคะแนน (สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล) 800, 000 4. งบประมาณสำหรับการตรวจสอบ การเลือกตั้ง (632, 236, 220 บาท) ภารกิจตรวจสอบการปฏิบัติงานเลือกตั้ง และการกระทำความผิดกฎหมายโดยผู้ตรวจการเลือกตั้ง 351, 468, 000 ภารกิจตรวจสอบการเลือกตั้งโดยองค์กรเอกชน 97, 650, 350 ภารกิจในการควบคุม สอดส่อง สืบสวนสอบสวน ไต่สวน วินิจฉัยชี้ขาด และดำเนินคดีในศาล 169, 653, 250 ภารกิจสังเกตการณ์การเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศในราชอาณาจักร 2, 785, 000 ภารกิจรับรายงานจากผู้ตรวจการเลือกตั้ง 10, 679, 620 และในกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) สั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ (เลือกตั้งซ่อม) จะใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งซ่อมอยู่ที่ 75, 266, 000 บาท นอกจากงบประมาณที่กล่าวไปข้างต้น คณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 ท่าน ใช้งบประมาณ 12 ล้านบาท สำหรับการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2562 สรุป การเลือกตั้งทั่วไป ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ใช้งบประมาณ (ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของ กกต ถึงวันที่ 4 เมษายน 2562) ไปทั้งหมด 4, 095, 838, 188 บาท (ไม่รวมงบประมาณ ที่ใช้สำหรับคัดเลือก สมาชิกวุฒิสภา (สว. )
กำหนด ระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส. ระบุความหมายของการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ เอาไว้ว่า หมายถึง การหาเสียงผ่านทางเว็บไซต์ โซเซียลมีเดีย ยูทูป แอปพลิเคชัน อีเมล์ เอสเอ็มเอส และ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นทุกประเภท ซึ่งก็คือ ' การหาเสียงออนไลน์ ' โดยผู้สมัครจะต้องแจ้งวิธีการ รายละเอียด ช่องทาง ระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องตามแบบที่กำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. จังหวัดทราบตั้งแต่วันสมัคร รับเลือกตั้งเป็นต้นไปหรือก่อนดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีพรรคการเมืองจะดำเนินการการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้แจ้งวิธีการ รายละเอียด ช่องทาง ระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามแบบที่ กกต. กำหนด ให้เลขาธิการ กกต. ทราบตั้งแต่วันสมัครรับเลือกตั้งเป็นต้นไปหรือก่อนดำเนินการ หาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ กกต. ก็ได้เปิดให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองแจ้งหาเสียงออนไลน์แล้วตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2562 แบบฟอร์มแสดงรายละเอียดการหาเสียงออนไลน์ที่ กกต.
และพรรคการเมือง ช่วยหาเสียงออนไลน์ เกิน 10, 000 บาท ต้องแจ้ง กกต. ด้วย สิ่งที่ประชาชนควรรู้อีกอย่างคือ หากเราชื่นชอบผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ และต้องการช่วยหาเสียงผ่านทางออนไลน์ หากมีค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่ กกต. กำหนด ผู้สมัคร และพรรคการเมืองจะต้องแจ้งรายละเอียดและค่าใช้จ่ายให้ กกต. ทราบด้วย ตามที่ ระเบียบ กกต. วิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส. ข้อ 11 ระบุว่า บุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้สมัคร หรือสมาชิกพรรคการเมือง หากต้องการช่วยผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหาเสียงออนไลน์ หากมีค่าใช้จ่ายในหารจัดทำสื่อ หรือค่าตอบแทนต่างๆ ในการหาเสียงออนไลน์ รวมแล้วเกินกว่า 10, 000 บาท ให้ผู้นั้นแจ้งค่าใช้จ่ายต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมืองทราบ แล้วให้ผู้สมัครแจ้งให้ ผู้อำนวยการ กกต. จังหวัดทราบ ส่วนพรรคการเมืองให้แจ้งต่อเลขาธิการทราบ ซึ่งให้แจ้งรายละเอียดตามแบบฟอร์มของ กกต.
กำหนดให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องแจ้งก่อนที่จะใช้ช่องทางหาเสียงออนไลน์ แบบฟอร์มค่าใช้จ่ายที่ กกต. กำหนดให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องแจ้งก่อนที่จะใช้ช่องทางหาเสียงออนไลน์ สอง ต้องทำตามระเบียบ กกต. ฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก หากผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด ใช้ช่องทางออนไลน์หาเสียงในลักษณะขัดกับข้อห้ามของ กกต. เช่น นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม กกต. สามารถสั่งให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลได้ และหากผู้สมัครไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลง กกต. ก็อาจแจ้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแจ้งไปยังผู้ให้บริการ หากมีค่าใช้จ่าย ก็ให้ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้รับผิดชอบ และสามารถนำมาเป็นเหตุให้ กกต. ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาดได้ โดยโทษของการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ถูกระบุไว้ในกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 156 ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไข ที่คณะกรรมการกําหนด มีโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10, 000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ สาม การหาเสียงออนไลน์รวมอยู่ในงบประมาณตามที่ กกต.
1, 300 ล้านบาท) และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พ. 2562 มีจำนวน 51, 239, 638 คน (อ้างอิงข้อมูลจาก) โดยคิดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อคน จะอยู่ที่ คนละ 80 บาท เลือกตั้งแต่ละครั้ง ใช้งบประมาณเท่าไหร่กันนะ? อาจจะเป็นเพราะเราห่างหายจากบรรยากาศการเลือกตั้งกันมาหลายปี ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีกระแสที่ค่อนข้างมาแรง และผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่างก็ตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการใช้สิทธิออกเสียงกันมากขั้น ทำให้มีการจับตามองขั้นตอนการจัดการเลือกตั้งและงบประมาณที่ใช้สำหรับการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง และนอกจากงบประมาณการจัดการเลือกตั้งครั้งล่าสุดแล้ว iTAX จะพาทุกคนไปย้อนดูงบประมาณที่ กกต. ใช้จัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี พ. 2544 – พ. 2562 มาดูกันว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา กกต. ใช้งบประมาณในการจัดการการเลือกตั้งไปเท่าไหร่บ้าง เลือกตั้งครั้งที่ วันที่เลือกตั้ง งบประมาณที่ใช้ (ล้านบาท) ครั้งที่ 1 6 มกราคม 2544 2, 000 ครั้งที่ 2 6 กุมภาพันธ์ 2548 1, 500 ครั้งที่ 3 2 เมษายน 2549 2, 159 ครั้งที่ 4 23 ธันวาคม 2550 2, 521 ครั้งที่ 5 3 กรกฎาคม 2554 3, 300 ครั้งที่ 6 2 กุมภาพันธ์ 2557 3, 885 ครั้งที่ 7 24 มีนาคม 2562 5, 800 ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกตั้งครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น จะมีบทสรุปแบบไหน?
ชาวทวิตเตอร์พากันติดแฮชแท็ก "กกตโป๊ะแตก" จนติดทะยานติดเทรนทวิตอันดับ 1 หลังไม่พอใจในการทำงานของ กกต. ชุดนี้ หลังจากช่วงดึกของคืนวันที่ ( 24 มี. ค. 62) ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ทำการนับคะแนนเลือกตั้งแบบไม่เป็นทางการ โดยผลที่ออกมาพรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนเสียงเลือกตั้งนำสูงสุด ซึ่งส่งผลให้ชาวโซเชียลที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น และคนวัยทำงาน ได้ออกมาวิจารณ์แสดงความไม่พอใจกับการทำงานของ กกต. ชุดนี้ ผ่านแฮชแท็กบน ทวิตเตอร์ ซึ่ง แฮชแท็ก "กกตโป๊ะแตก" ขึ้นอันดับหนึ่งเทรนทวิตเตอร์ และยังมีอีกหลายแฮชแท็ก ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวติดเทรนทวิตเตอร์ เช่น แฮชแท็ก "โกงเลือกตั้ง62 " และ แฮชแท็ก "กกตชุ่ย" ซึ่งเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานของ กกต. มีหลายกรณีแต่ประเด็นหลักส่วนใหญ่ที่ถูกพูดถึงกันมากก็จะเป็น จำนวนบัตรเลือกตั้งบางเขตที่ไม่ตรงกับจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ รวมถึงกรณีที่มีบัตรเสียที่มีมาก และกรณีที่คนไปใช้สิทธิเลือกในครั้งนี้น้อยกว่าเมื่อการเลือกตั้งในปี 54 ทั้งๆ ที่ประชนตื่นตัวกว่าทุกๆ ครั้ง อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ในโลกยุคปัจจุบัน คนเกือบทั้งโลก ได้ใช้ช่องทางบนโลกออนไลน์ เพื่อติดต่อสื่อสารกันอย่างง่ายดาย เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แน่นอนว่าผู้สมัครและพรรคการเมือง รวมถึงประชาชนก็มุ่งหวังจะใช้ช่องทางโลกออนไลน์ในการสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำความรู้จักตัวตนของผู้สมัครคนนั้น และนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งในต่างประเทศ อย่างเช่น ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แคนดิเดตประธานาธิบดีฯ ต่างก็ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับคนในประเทศและสังคมโลก แม้แต่ใน การเลือกตั้งของไทยปี 2554 ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) เปิดโอกาสให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองสามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเต็มที่ ทว่าการเลือกตั้งปี 2562 กกต. ที่ถูกแต่งตั้งในรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) กลับออกระเบียบที่มาก็จำกัด ' การหาเสียงออนไลน์ ' ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการปิดกั้นทำให้ประชาชนไม่สามารถทำความรู้จักผู้สมัครและพรรคการเมืองได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้สมัครและพรรคการเมืองหน้าใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบและไม่เป็นธรรม ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย การเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( กฎหมายเลือกตั้ง) ระบุถึงเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งออนไลน์ไว้ใน มาตรา 70 ว่า " การหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทำได้ตามหลักเกณฑ์ที่ กกต.
ยังคงเป็นประเด็นที่หลายๆ คนให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับบทสรุปของ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ. ศ. 2562 และสำหรับใครที่กำลังสนใจว่า งบประมาณการเลือกตั้ง 2562 นั้นถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง ตัวเลขงบประมาณ 5, 800 ล้านบาทจริงหรือไม่? iTAX มีคำตอบ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ. 2562 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ. 2562 เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 28 โดยกำหนดให้จัดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เพื่อเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คน และถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากมีการทำรัฐประหารในปี พ. 2557 โดยเป็นการจัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ. 2560 เรื่องของ งบเลือกตั้ง 2562 หลายๆ คนอาจจะเข้าใจไปว่า งบประมาณที่ใช้สำหรับการเลือกตั้งนั้น เป็นงบประมาณที่ใช้เพื่อการจัดการเลือกตั้งอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราอยากจะบอกว่า ในความเป็นจริงแล้ว งบประมาณที่ใช้จัดการเลือกตั้ง ปี 2562 นั้น นอกจากจะถูกใช้เพื่อให้จัดการและควบคุมให้การเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นไปอย่างเรียบร้อยแล้วนั้น ยังรวมถึงงบประมาณที่จะถูกใช้ไปเพื่อ รณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รณรงค์ให้ประชาชนมีความเข้าใจในบัตรเลือกตั้งแบบใหม่ (บัตรใบเดียว กาเบอร์เดียว) ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นต้น และงบประมาณคร่าวๆ ที่ถูกระบุไว้ใน website ของ กกต.
คงเป็นเรื่องที่ผู้เสียภาษีจะต้องติดตามกันต่อไป ขอบคุณข้อมูลจาก AmarinTV
พรรค เพื่อไทย โพสต์แถลงการณ์ไม่ยอมรับการรับวิธีคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ประกาศและรับรองวันนี้ (8 พ. ย. ) โดยเห็นว่า วิธีคำนวณดังกล่าวทำให้พรรคที่มีจำนวน ส. ส. พึงมี ไม่ถึง 1 คน หรือคะแนนไม่ถึง 71, 000 คะแนน ได้รับการจัดสรร ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งขัดต่อกฎหมาย และไม่ยุติธรรมกับบางพรรคที่โดนลดจำนวน ส. บัญชีรายชื่อ กฎหมายเขียนชัดห้ามมี ส. เกินโควตา นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า การแจกที่นั่ง ส. บัญชีรายชื่อให้กับพรรคที่มีคะแนนไม่ถึง 71, 000 คะแนน ผิดกฎหมายมาตรา 128 ของพระบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พ. ร. ป. ) อย่างเห็นได้ชัด เพราะมีการระบุเอาไว้ว่า ห้ามทำให้พรรคการเมืองมี ส. มากกว่าจำนวน ส. พึงมี "พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวมา ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับทราบข้อท้วงติง ข้อทักท้วงของพรรคการเมืองที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อตาม 'สูตรแจกพรรคเล็ก'" พรรคเพื่อไทย ระบุ เดินหน้าฟ้อง กกต.